กรุงเทพฯ : บริษัท อลิอันซ์ ลอนดรี้ ซิสเต้มส์ (Alliance Laundry Systems) ผู้นำการผลิตเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เล็งไทยเป็นฐานการผลิตรองจากสหรัฐอเมริกา ทุ่มทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ในไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี 2 HESIE 2 ด้วยเม็ดเงินกว่า 1,500 ล้านบาทสำหรับเฟสแรก โดยจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าโรงงานจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ และเริ่มผลิตเพื่อกระจายสินค้าในช่วงต้นปีพ.ศ 2562 ชี้การลงทุนดังกล่าวได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ในจังหวัดชลบุรี
ยาน โฟลเกิ่ล ประธานฝ่ายปฏิบัติการบริหารการต่างประเทศ บริษัทอลิอันซ์ ลอนดรี้ ซิสเต้มส์ กล่าวว่า บริษัท อลิอันซ์ ลอนดรี้ ซิสเต้มส์ ตั้งอยู่ที่รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ผลิตเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ โดยมีแบรนด์ของบริษัท รวม 5 แบรนด์ ได้แก่ Speed Queen®, UniMac®, Huebsch®, Primus® และ IPSO® รวมถึง SoftWash® นวัตกรรมการซักผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการดูแลรักษาผ้าชนิดพิเศษเช่น ผ้าไหม ผ้าวูล และหนังอีกด้วย
สำหรับโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย มีพื้นที่ 51 ไร่ นับเป็นฐานการผลิตแห่งที่ 4 ต่อจาก 3 โรงงานก่อนหน้า ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเช็ก และจีน ตามลำดับและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากโรงงานที่สหรัฐอเมริกา โดยโรงงานจะมุ่งเน้นที่จะผลิตเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเทคโนโลยีขั้นสูงขนาด 8-35 กิโลกรัม สำหรับการก่อสร้างโรงงานเฟสแรกจะใช้พื้นที่ 1 ใน 4 คือ 24,000 ตรม. มีพนักงาน 350 คน ส่วนเฟส 2 คาดว่าจะใช้เวลาราว 3 ปี
ภายในพื้นที่โรงงานจะประกอบไปด้วยศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) รวมถึงห้องทดลอง อลิอันซ์ สตาร์ (Alliance STAR) อีกด้วย ทั้งนี้เตรียมแผนงานที่ส่งบุคลากรไทยราว 30% ไปฝึกอบรมและรับถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งส่งบุคลากรจากสหรัฐอเมริกามาฝึกอบรมทที่ไทย โดยตั้งเป้าจะใช้ทีมวิจัยและพัฒนาที่เป็นคนไทยทั้งหมด
การตัดสินใจเลือกประเทศไทยให้เป็นศูนย์การผลิตแห่งใหม่ เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่สืบเนื่องจากยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยที่ความต้องการตลาดเพิ่มขึ้น 10% ทุกๆ ปี เราเห็นโอกาสในการเติบโตอย่างมากในหลายๆ ด้านของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มโรงแรม กลุ่มโรงพยาบาล ภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น " ยาน โฟลเกิ่ล กล่าว
การเพิ่มกำลังผลิตในประเทศไทย จะเป็นหลักประกันที่สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการจัดตั้งในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช 2 ซึ่งอยู่ในเขต EEC และใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งตั้งไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ ถือเป็นทำเลที่เหมาะสมในการขนส่งสินค้า อีกทั้งมีการใช้วัตถุดิบในไทย โดยเริ่มแรกจะใช้วัตถุดิบในไทย 70% และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เมื่อโรงงานสามารถออกแบบ เตรียมวัสดุ ผลิตและขนส่งได้อย่างครบวงจรแล้ว ระยะเวลาในการผลิตก็จะลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อลูกค้าของเราในตลาดนี้
นอกจากนี้ ด้วยจำนวนร้านสะดวกซัก รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยและอพาร์ทเมนท์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มาเลเซียมีจำนวนร้านซักรีด 1,000 แห่ง ในขณะที่ไทยมีร้านซักรีดต่ำกว่า 100 แห่ง ซึ่งมีช่องทางและโอกาสในการขยายตลาดอีกมาก ทำให้มียอดการสั่งซื้อเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญหรือแบบบัตรเติมเงินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่ออัตราการเติบโตของบริษัทฯ