กิกะมอน(Gigamon) รั้งตำแหน่งผู้นำตลาดการสังเกตการณ์เชิงลึก ด้วยส่วนแบ่งตลาด 63 % ในปี 2566


ประเทศไทย – 17 พฤษภาคม 2567 : กิกะมอน (Gigamon) บริษัทชั้นนำด้านการสังเกตการณ์เชิงลึก (Deep Observability) คว้าตำแหน่งผู้ค้าชั้นนำในตลาดการสังเกตการณ์เชิงลึกมาครองได้สำเร็จอีกครั้ง  โดยมีส่วนแบ่งตลาด 63 เปอร์เซ็นต์และมีอัตราการเติบโต 43 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา   ซึ่งเป็นข้อมูลจากรายงานฉบับใหม่ที่ได้รับการเผยแพร่โดย 650 กรุ๊ป (650 Group) บริษัทวิจัยด้านการตลาด         สำหรับตลาดรวมของตลาดการสังเกตการณ์เชิงลึกมีการเติบโตที่ 61 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากองค์กรต่างๆ ได้หันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากรายงานดังกล่าวได้มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะมีรายได้เกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2571

นอกจากนี้ รายงาน 2023 Hybrid Cloud Security ยังพบด้วยว่า ปัจจุบันหนึ่งในสามของผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Chef Information Security Officer: CISO) ยังขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแหล่งจัดเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญสูงสุดขององค์กรรวมถึงวิธีรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลดังกล่าว โดยจะเห็นได้ว่าบรรดาผู้ที่ต้องการก่อภัยคุกคามกำลังใช้ประโยชน์จากช่องว่างด้านความปลอดภัยเหล่านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงทางธุรกิจที่ร้ายแรงอันเป็นผลมาจากการที่ไม่สามารถวิเคราะห์การรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส (encrypted traffic) ได้อย่างดีพอ อีกทั้งระบบบคลาวด์ที่ใช้งานอยู่ รวมถึงเครื่องมือรักษาความปลอดภัยและเครื่องมือสังเกตการณ์ที่มีอยู่ก็ไม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในเชิงรุกได้ เนื่องจากข้อมูลที่เข้ารหัสจะลัดเลาะเข้าไปยังภายใน ภายนอก หรือครอบคลุมทั่วทั้งโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดขององค์กรได้อย่างง่ายดาย แนวโน้มของภัยคุกคามที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาอยู่ตลอดเวลานี้ยังคงกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสำหรับตลาดการสังเกตการณ์เชิงลึก เนื่องจากองค์กรต่างๆ กำลังหันมาให้ความสำคัญกับความสามารถในการมองเห็นข้อมูลทั้งหมดที่เคลื่อนไหวภายในองค์กร ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยของตน

Gigamon Deep Observability Pipeline นำข้อมูลอัจฉริยะที่ได้รับจากเครือข่ายไปยังระบบคลาวด์ เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย และเครื่องมือสังเกตการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกค้าสามารถขจัดจุดบอดด้านความปลอดภัย ตลอดจนดูแลรักษาความปลอดภัยและจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดได้ดียิ่งขึ้น โดยมุมมองที่มีเอกลักษณ์และครอบคลุมนี้พร้อมความสามารถในการสังเกตการณ์เชิงลึกบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ที่มีการรับส่งข้อมูลอย่างรอบด้าน รวมถึงการให้ความปลอดภัยและยกระดับประสิทธิภาพให้ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีองค์กรมากกว่า 4,000 แห่งทั่วโลกต่างวางใจให้กิกะมอนเข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดในเชิงรุกให้กับตน

 

องค์กรหลายแห่ง อาทิ ยูนิเวอร์ซิตี้ เฮลธ์ เน็ตเวิร์ก (University Health Network) ให้กิกะมอนช่วยเสริมสร้างความสามารถในการมองเห็นการลัดเลาะรับส่งข้อมูลที่ครอบคลุมแบบ East-West ผ่านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดที่มีความซับซ้อนอย่างมาก

คาจีแวน ราจานายาเกม (Kajeevan Rajanayagam)  ผู้อำนวยการฝ่ายการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของยูนิเวอร์ซิตี้ เฮลธ์ เน็ตเวิร์ก กล่าวว่า ความสามารถในการมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทีมรักษาความปลอดภัย    ยิ่งตรวจจับสิ่งผิดปกติได้เร็วเท่าไร เราสามารถแยกเหตุการณ์ต้องสงสัยและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้เร็วขึ้นเท่านั้น โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กิกะมอนได้ช่วยระบุการโจมตีของแรนซัมแวร์(ransomware) ที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากได้แล้วสองถึงสามรายการ

อลัน  เวกเคล (Alan Weckel) ผู้ก่อตั้งและนักวิเคราะห์เทคโนโลยีของบริษัท 650 กรุ๊ป กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา เรามองเห็นผลกระทบของภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่ๆ หลายรายการ ซึ่งครอบคลุมถึงการละเมิด แรนซัมแวร์(ransomware) และการรั่วไหลของข้อมูลต่อสาธารณะ  ช่องโหว่เหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการนำโซลูชันการสังเกตการณ์เชิงลึกและการมองเห็นที่ครอบคลุมแบบ East-West  มาใช้ในการรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส ซึ่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการดำเนินงานขององค์กรทั้งหมด และสิ่งนี้ได้ขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัยและงบประมาณด้านไอทีในปัจจุบัน ทั้งนี้   กิกะมอนยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้วย Deep Observability Pipeline ซึ่งนำเสนอแนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาความปลอดภัยและการจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดที่ทันสมัย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save