กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกกำลัง
บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงินทุนหนุนสตาร์ทอัปไทยปรับฐานสตาร์ทอัพไทย สู่ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระดับสากล ภายใต้โครงการ
“DIPROM x DELTA ANGEL FUND 2024” ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ที่ DIPROM และ DELTA ได้ร่วมมือกันพัฒนาความรู้และทักษะการดำเนินธุรกิจให้แก่ Startup รวมถึงสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปสู่การยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและประเทศต่อไป
ภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือ DIPROM มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัปที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจ เราจึงพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเริ่มต้นใหม่ หรือสตาร์ทอัพ เพื่อนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ผ่านการร่วมมือกับกับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในโครงการ “DIPROM x DELTA ANGEL FUND 2024” โดยมุ่งเน้นให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อการจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้น ด้วยการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในระยะเวลาอันจำกัด รวมถึงการสร้างโอกาสเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อยอดธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ พร้อมส่งต่อนวัตกรรมใหม่ๆ ไปยังภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจในภาพรวม โดยในปีนี้ทางโครงการฯ ได้เพิ่มเติมหัวข้อการใช้นวัตกรรมในรูปแบบการดำเนินธุรกิจ อยู่ในสาขา Deep Technology และ Soft Power เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการพัฒนา และยกระดับธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน
สำหรับทีมสตาร์ทอัป 10 ทีมที่มีนวัตกรรมโดดเด่นและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ อากาศยานไร้คนขับขึ้นลงแนวดิ่งประสิทธิภาพสูง , อุปกรณ์ช่วยพลิกตัวอัตโนมัติเพื่อป้องกันแผลกดทับ , SHARESOULS อนุสรณ์ออนไลน์ , อุปกรณ์ AI สำหรับการคัดกรองและวิเคราะห์การได้ยิน , วัสดุดูดซับและห้ามเลือดรูปแบบฟองน้ำจากพอลิเมอร์ธรรมชาติ , ผลิตภัณฑ์พลาสมาไอออน เพื่อกำจัดแบคทีเรียและสารปนเปื้อนในอาหาร , ระบบการกักเก็บพลังงานในรูปแบบแบตเตอรี่ ก้าวสู่อนาคตก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ , TOKI MILK นมพืชเสริมแคลเซียม และเชื้อเห็ดเหลวบริสุทธิ์
วิคเตอร์ เฉิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสนับสนุนสตาร์ทอัปถือเป็นหนึ่งในภารกิจของบริษัทเรา เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจสตาร์ทอัปคือบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนวัตกรรมของประเทศ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานเอกชนที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เรามองเห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ โดยการเข้าร่วมของกลุ่มสตาร์ทอัปทั้งหมด 10 ทีมในปีนี้ เราได้มอบเงินสนับสนุนให้กับ 10 ทีมที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการายใหม่สามารถเข้าถึงตลาด รวมถึงการเสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกได้
“เราเชื่อว่า การร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในโครงการนี้จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าต่ออนาคตของธุรกิจไทย โดยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาของธุรกิจสตาร์ทอัปและ SMEs ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับการดำเนินโครงการในปีหน้าเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี เราคาดหวังว่าจะมีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการรายใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกเดือด ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม การลดก๊าซเรือนกระจกรวมถึงการใช้ AI เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างยั่งยืน”
วิคเตอร์ เฉิง กล่าวทิ้งท้าย
