กรุงศรี ฟินโนเวต จับมือ อีฟราสตรัคเจอร์ ปั้นกองทุนใหม่ หนุนสตาร์ทอัปรายเล็ก พร้อมเปิด Accelerator สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน


กรุงศรีฟินโนเวต ร่วมกับอีฟราสตรัคเจอร์(Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและผู้เชี่ยวชาญในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์(Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัปไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัปที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พร้อมด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัประดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวต และอีฟราสตรัคเจอร์ ต่างอยู่ในสตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มส์มานานและทำงานใกล้ชิดกับสตาร์ทอัปจำนวนมาก กองทุนฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์ (Finno Efra Private Equity Trust) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Finno Efra เกิดขึ้นจากมุมมองและเป้าหมายเดียวกันของทั้งสองบริษัทคือ เราต้องการสร้างสตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มส์ของไทยให้แข็งแกร่งขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับมาดูภาพรวมของสตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มส์ในประเทศไทยจะเห็นว่า Corporate Venture Capital หรือ CVC เป็นกลุ่มหลักที่ให้การสนับสนุนและเข้ามาลงทุนในอีโคซิสเต็มส์นี้ โดยบรรยากาศการลงทุนจะเน้นไปที่กลุ่ม Series A ขึ้นไปเป็นส่วนมาก สวนทางกับเทรนด์การลงทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศ รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะมุ่งให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพตั้งแต่ระดับ Early Stage ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้สตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มส์เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น มีสตาร์ทอัปรายใหม่ๆ เกิดขึ้น กองทุน Finno Efra Private Equity Trust ที่จะเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกันของ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด และ บริษัท อีฟราสตรัคเจอร์ จำกัด เป็นกองทุนขนาดประมาณ 1,300 ล้านบาท (หรือประมาณ 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) มุ่งลงทุนสตาร์ทอัปที่อยู่ในช่วง Seed ถึง Pre-series A เป็นหลัก เน้นลงทุนในกลุ่ม Impact & Digital Transformation โดยสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่จะโฟกัสที่สตาร์ทอัปสัญชาติไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 60% และที่เหลือจะเลือกลงทุนในสตาร์ทอัปประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งเทคสตาร์ทอัปกำลังเติบโตอย่างเห็นชัดเจน โดยยอดการลงทุนในแต่ละดีลอยู่ที่ราว 8-40 ล้านบาทต่อกิจการ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและตามที่บริษัทกำหนด พจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.วรรณ เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง และในฐานะนักลงทุนสถาบันพร้อมให้การสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว “การร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับตลาดทุนไทย และเพิ่มความหลากหลายให้กับสินทรัพย์ทางเลือก จากเดิมมักจำกัดอยู่ในตราสารทุน ตราสารหนี้ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ อีกทั้งที่ผ่านมา บลจ.วรรณ มีความมุ่งมั่นที่จะนำร่องผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ๆ มาโดยตลอด เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุน และไม่พลาดโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ” พจน์ กล่าว ทั้งนี้ บลจ.วรรณ เตรียมนำเสนอขายกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนใน กองทุน Finno Efra Private Equity Trust ซึ่งเป็นกองทุนรวมแรกของประเทศไทยที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป Pre-Series A เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าประเภทกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI) ลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายครั้งแรกพร้อมกองทรัสต์ อย่างไรก็ดีขณะนี้กองทุนอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ด้านภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อีฟราสตรัคเจอร์ จำกัด กล่าวว่า หลักสูตรหรือโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นโค้ชให้คำปรึกษา และบ่มเพาะสตาร์ทอัปรายใหม่ๆ ในปัจจุบันมีสัดส่วนลดน้อยลง ซึ่ง Accelerator และ Incubator ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะทำให้สตาร์ทอัปรายใหม่ๆ เกิดขึ้นและเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สตาร์ทอัปประสบความสำเร็จได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเสมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ลงทุนและสตาร์ทอัปได้เป็นอย่างดี ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคู่ขนานไปกับกองทุน Finno Efra คือ กรุงศรี ฟินโนเวต และอีฟราสตรัคเจอร์ จะร่วมกันทำ Finno Efra Accelerator Program เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัปที่สนใจสมัครเข้ามาเรียนรู้ โดยเราจะใช้เครือข่าย ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีสร้างให้หลักสูตรนี้ครอบคลุมในทุกๆ มิติที่สำคัญสำหรับสตาร์ทอัป ออกแบบหลักสูตรให้สตาร์ทอัพที่เข้ามาได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ “โครงการบ่มเพาะ Accelerator ในครั้งนี้ จะเป็นพื้นที่ให้สตาร์ทอัปของไทยเป็นที่สนใจของสังคมและสื่อสาธารณะชนมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้กับสตาร์ทอัปรายเล็ก พร้อมก้าวสู่ฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” ภาวุธ กล่าว ประภาศิริ อรรถจินต์ หัวหน้าโครงการ Accelerator และ ECOSYSTEM เปิดเผยว่า Finno Efra Accelerator Program จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน โดยในแต่ละรอบจะเปิดรับสตาร์ทอัปประมาณ 10 บริษัทที่อยู่ในระดับ Seed จนถึง Pre Series-A และสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมเรียนในหลักสูตรนี้จะมีโอกาสได้รับเงินลงทุนจากกอง Finno Efra 8-40 ล้านบาท พร้อมพบกับเมนเทอร์และนักลงทุนมากกว่า 100 ท่าน ที่จะเข้ามาดูแลและให้คำแนะนำสตาร์ทอัปแต่ละทีมเป็นพิเศษ รวมถึงพาร์ทเนอร์รายใหญ่มากมายร่วมให้การสนับสนุน เช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ , Depa , True digital Park , wisesight สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 15 กันยายน 2567 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save