LION นำ IDA แพลตฟอร์ม’ จากสวทช. ยกระดับโรงงานสู่ Industry 4.0 ลดต้นทุนด้านพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรม NSTDA Meets the Press แชร์ความสำเร็จในการปรับตัวของบริษัท LION การพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยมี ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิต Plant 200 & Plant 400 บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด และธเนศ อิงสกุลรุ่งเรือง ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะ System Integrator: SI ร่วมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ หอมนุษยธรรม บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

 

LION ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วย IDA Platform

จากการยกระดับภาคการผลิตสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการเปิดตัว Industry 4.0 แพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและผลักดันผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมในประเทศสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน จาก สวทช. และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้อุตสาหกรรมในประเทศต่างปรับตัวและเร่งขับเคลื่อนกลไก Industry 4.0 แพลตฟอร์มกันมากขึ้น หนึ่งในบริษัทที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการปรับตัว ก็คือ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ที่สามารถพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน

ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิตฯ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจใช้บริการเข้าร่วม i4.0 Platform เพราะบริษัทไลอ้อน มีอุตสาหกรรม 2.0 อุตสาหกรรม 3.0 มาก่อนหลายโรงงาน จนในช่วงปี 2016 บริษัท ไลอ้อนฯ สร้างโรงงานใหม่จำนวนมาก จึงมีการปรับให้ทันสมัย และพัฒนาหลายรูปแบบโดยได้เข้าศึกษาข้อมูลและร่วมโครงการกับศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ของ สวทช. ที่เข้ามาช่วยประเมินอุตสาหกรรม 4.0 จึงเข้าร่วมเพื่อเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม 4.0 โดยมีการเชื่อมโยงระบบที่เปลี่ยนจากการใช้กระดาษ มาเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลเป็นระบบดิจิทัล ในการประเมินดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรม 4.0 Thailand i4.0 Index ทำให้ทราบประเด็นสำคัญที่โรงงานควรปรับปรุง ซึ่งทางบริษัทฯ เน้นปรับปรุงด้านกระบวนการการผลิต หรือ Smart Factory โดยนำ IDA Platform เข้ามาเติมจุดอ่อน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานและแสดงผลในรูปแบบ Dashboard โดยบริษัทฯ สามารถนำมาประยุกต์ปรับใช้ต่อยอดขยายผลไปยังระบบอื่น ๆ ภายในโรงงาน เช่น ระบบไอน้ำ (Steam System) ชิลเลอร์ (Chiller) เครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ ระบบน้ำหล่อเย็นของเครื่องจักร (Cooling Tower) ซึ่งขยายมาได้ 2 ปี แล้ว

“ผลลัพธ์ที่ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ได้จากการใช้ IDA Platform ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานในกระบวนการผลิต 60,000 kWh. (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี ลดค่าไฟฟ้าในกระบวนการผลิตได้หลักแสนบาทต่อเดือน โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ไปพัฒนาระบบอื่นๆ ของโรงงานต่อไปได้” ดร.กิตติวัตร กล่าว

 

แพลตฟอร์ม IDA เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบอัจฉริยะ

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) กล่าวว่า แพลตฟอร์ม IDA หรือ แพลตฟอร์มไอโอทีและระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม (INDUSTRIAL IOT AND DATA ANALYTICS PLATFORM: IDA PLATFORM) เป็นโครงการนําร่องสำคัญภายใต้ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) จากความร่วมมือระหว่าง ARIPOLIS-SMC สวทช. และพันธมิตรรัฐร่วมเอกชน โดยแพลตฟอร์มสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ IOT (INTERNET OF THINGS) เพื่อตรวจจับสัญญาณต่าง ๆ จากเครื่องจักรในกระบวนการผลิตสู่การวิเคราะห์และบูรณาการข้อมูล ทําให้ทราบสถานการณ์ทำงานของเครื่องจักร นําไปสู่การบริหารจัดการการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงานซึ่งตอบสนองความต้องการในการลดต้นทุนของผู้ประกอบการ SMES โดยบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้นำแพลตฟอร์ม IDA มาใช้นำร่องใน PLANT 4 โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะ SYSTEM INTEGRATOR: SI ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ภายในโรงงาน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม IOT และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักรการผลิตสู่การวิเคราะห์ข้อมูล (DATA ANALYTIC) อย่างอิสระ

ดังนั้นแพลตฟอร์ม IDA จึงสามารถประยุกต์ใช้งานครอบคลุมได้หลายมิติ ได้แก่ 1.การตรวจวัดปริมาณการใช้พลังงานในโรงงาน (ENERGY MONITORING) โดยการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทราบต้นทุนรวมถึงภาพรวมด้านการใช้พลังงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโรงงานให้คุ้มค่าสูงสุด 2.การปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต หรือ OVERALL EQUIPMENT EFFECTIVENESS (OEE) ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของเครื่องจักรเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิผลโดยรวมที่บ่งบอกความพร้อมของเครื่องจักร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพการผลิต นำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างตรงจุดเพื่อเพิ่มความ สามารถในการผลิต (PRODUCTIVITY) แก่โรงงานอุตสาหกรรม และ 3.การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (PREDICTIVE MAINTENANCE) โดยการเชื่อมโยงข้อมูลพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของเครื่องจักรมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ถึงความเป็นไปได้ที่เครื่องจักรจะเกิดความเสียหายในอนาคต ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงที เป็นการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงาน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า ด้วยระบบ SI ประมลผลแบบเรียลไทม์

ธเนศ อิงสกุลรุ่งเรือง ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะ System Integrator กล่าวว่า ความสำคัญของ System Integrator: SI ช่วยการสนับสนุนโรงงานในสายการผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยขยายผล IDA Platform สู่โรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้โรงงานสามารถทดลองใช้ IoT และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม โดยร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิต หรือบริษัทที่เชี่ยวชาญทำงานร่วมกับโรงงานหรือผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เพื่อทดสอบการทำงานของระบบและอุปกรณ์ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม และการพัฒนา Solution ที่ต้องการได้ในอนาคต

“ในฐานะ System Integrator (SI) ทำหน้าที่ในการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถทำงานร่วมกับ IDA Platform โดยบทบาทของ SI ที่เข้าไปดำเนินการคือ สำรวจ ออกแบบ ประเมินปริมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และติดตั้ง รวมทั้งการเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์เข้ากับ IDA Platform และระบบอื่น ๆ สิ่งสำคัญของ SI คือต้องเข้าใจ Pain Point และความต้องการของลูกค้า รวมทั้งพิจารณาถึงความคุ้มค่าสำหรับ pain point ของโรงงานส่วนมาก คือ มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นได้อย่างเต็มที่ อาทิ ไม่มีการใช้ข้อมูลเพื่อการแจ้งเตือนเรียลไทม์เมื่อเกิดความผิดปกติหรือปัญหา ทำให้ทีมงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ดังนั้นการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ จะช่วยให้โรงงานสามารถเห็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและยกระดับการผลิตได้อย่างมาก โดยสามารถเริ่มต้นได้ ด้วยเทคโนโลยี IOT เชื่อมต่อระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงผลในรูปแบบ Dashboard เพื่อแสดงค่าพลังงานทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นข้อมูล และสามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านพลังงานในกระบวนการผลิต รวมทั้งเห็นสถานะและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรได้ทันที ซึ่งเป็นผลดีต่อการวางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักรต่อไป” ธเนศ กล่าวนอกจากการทำหน้าที่ในการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถทำงานร่วม IDA Platform แล้ว ยังต้องให้ความรู้กับบุคลากรในโรงงานถึงวิธีการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับ ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงาน ปัญหาสำคัญอีกอย่างคือปัจจุบันโรงงานส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าการรั่วไหลของพลังงานหรือต้นทุนด้านพลังงานเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ แล้วโรงงานจะแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไร ดังนั้น “ดิจิทัล” เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และอย่ากลัวที่จะปรับตัว ลองใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในโรงงานเพื่อให้เห็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์อีกมาก

 

ขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วย Digital Transformation

ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 สวทช. กล่าวว่า จากกรณีตัวอย่างการประเมิน Thailand i4.0 Index ของบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัทฯ ทราบทิศทางในการปรับปรุงองค์กร เห็นจุดแข็ง รู้จุดอ่อน และระดับความพร้อมขององค์กร สามารถนำผลการประเมินที่ได้มาจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) เพื่อยกระดับขีดความสามารถของบริษัทและบรรลุเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจได้ด้วย Digital Transformation โดยแนวทางการยกระดับองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสู่อุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

  • ขั้นที่ 1. Online & Interactive Self-assessment ซึ่งจะมีตัวชี้วัดเป็น Thailand i4.0 Index มี 6 มิติหลัก 17 มิติย่อย และสามารถสรุปผลได้เป็น 6 Band Levels โดย Band 5-6 จะเท่ากับ Industry 4.0
  • ขั้นที่ 2. Initiation การรับการประเมิน Thailand i4.0 Index แบบ On-site โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าและยังได้รับคำแนะนำสำหรับการพัฒนาต่อไป
  • ขั้นที่ 3. Solutioning การรับบริการที่ปรึกษาจากศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้ Testbed & Facilities SMC การทำคอร์สการฝึกอบรม การกำหนดกลยุทธ์ วางแผนปรับปรุงระบบขององค์กร การจัดทำแผนการลงทุน รวมทั้งการขอรับการส่งเสริมจาก BOI
  • ขั้นที่ 4. Implementation & Operation การนำอุปกรณ์ Solution ต่าง ๆ ไปใช้จริงในโรงงาน และ SMC ยังมี Campaign ให้เงินสนับสนุนสำหรับโรงงานที่สนใจทำ Implementation & Operation

นอกจากนี้ ยังมี Membership ที่จะให้สิทธิประโยชน์ในเรื่องของส่วนลดการใช้บริการต่าง ๆ การให้คำปรึกษาด้านเทคนิค การเข้ามาใช้เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของ SMC ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับข้อมูล ข่าวสารการเข้าร่วมกิจกรรม Business Matching อีกด้วย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save