เอ็นไอเอ จับมือ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เร่งยกระดับศักยภาพด้านนวัตกรรมของบุคลากร สร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร” “โลตัส” ผนึกกำลังผลักดันการยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรม พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อออกแบบและพัฒนาหลักสูตรนวัตกรรมให้กับบุคลากรของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ตลอดจนให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านผู้เชี่ยวชาญ วิทยากร เพื่อให้แนวทางและคำแนะนำในการพัฒนานวัตกรรมของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ให้มีศักยภาพการแข่งขัน รวมถึงการเชื่อมโยงสตาร์ทอัปหรือบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพและความคล่องตัวสูงให้เกิดเป็นการสร้างเครือข่ายสำหรับแลกเปลี่ยน เผยแพร่ และแบ่งปันองค์ความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำไปพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า บทบาทสำคัญของ NIA คือการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์ ด้วยการนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ร่วมกับเครือข่ายจนก่อให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรม การพัฒนาบุคลากรขององค์กรให้มีฐานความคิดด้านนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกำลังคนที่มีสมรรถนะขององค์กร พร้อมช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และทำให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่นออกมาได้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรนวัตกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้แก่บุคลากรของซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้มีทักษะ และความคิดเชิงนวัตกรรม ไปจนถึงการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อต่อยอดไอเดียทางด้านนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ สร้างความแตกต่าง สร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า พร้อมรองรับความท้าทายที่จะเกิดขึ้น และตอบโจทย์ลูกค้าได้ทันท่วงทีต่อกระแสปัจจุบัน รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์ม Accelerator Programs ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมด้วยข้อมูล เพื่อเน้นให้ธุรกิจสตาร์ทอัปเข้มแข็ง

“การผสานความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่มีส่วนช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือต่อยอดกระบวนการนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนและขยายผลสู่เศรษฐกิจและสังคมไทย รวมทั้งเป็นการพัฒนากำลังคนของประเทศให้มีความรู้ความสามารถทางด้านนวัตกรรม ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตด้านนวัตกรรมของประเทศเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาในการพัฒนาองค์กร และเป็นผู้ประสานเชื่อมต่อทั้งด้านนโยบายและวิธีการดําเนินงาน ซึ่งจะก่อให้เกิดระบบนวัตกรรมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดีขึ้น NIA หวังว่าความร่วมมือนี้ จะช่วยทำให้บุคลากรของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า สามารถยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรและสังคมได้อย่างยั่งยืนต่อไป” กริชผกา กล่าว

ฌอน หวอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร สายงานบริหารการเปลี่ยนแปลงและสำนักงานประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรทั่วโลกต้องปรับตัวและนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ในการบริหารและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่ง ซีพี แอ็กซ์ตร้า ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงมุ่งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานในทุกส่วนขององค์กร ควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยการใช้ ‘นวัตกรรมที่ยั่งยืน’ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสินค้า บริการ และกระบวนการดำเนินธุรกิจ ผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างผลกระทบที่ดีในระยะยาวต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับภารกิจการขับเคลื่อนธุรกิจตามยุทธศาสตร์ความยั่งยืนปี 2573 ขององค์กร

การผนึกกำลังร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามรถของพนักงาน ควบคู่กับการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ (Value Added) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต

ภายในงานพิธีนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้จัดแสดงสินค้านวัตกรรมของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ได้แก่

  • เบอร์เกอร์เนื้อวากิวออสเตรเลีย ขนมปังเบอร์เกอร์ผลิตจากเนื้อมันฝรั่งแท้และเนยสด ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ หอมฉ่ำเนย เพิ่มความอร่อยด้วยเนื้อวากิวนำเข้าคุณภาพพรีเมี่ยมจากออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังปราศจากวัตถุกันเสีย จึงเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  • น้ำดื่มไร้ฉลากพลาสติก ชูแนวความคิดการรักษ์โลก ทำจากขวดพลาสติก PET ฉลากอลูมิเนียม ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์แทนการใช้หมึก สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ลดการใช้พลาสติกใหม่ราว 11.6 ตันต่อปี
  • เสื้อยูนิฟอร์มพนักงานจากการรีไซเคิลขวด PET โดยในปี 2565 บริษัทฯ สามารถรวบรวมขวดน้ำพลาสติกได้มากถึง 2.4 ล้านขวด เพื่อนำไปผลิตเสื้อยูนิฟอร์มพนักงานได้ถึง 120,000 ตัว เทียบเท่ากับการลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 73.92 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • ถุงขยะรีไซเคิล ผลิตจากเมล็ดพลาสติกรีไซเคิล ลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 652,943 KgCO2e และปริมาณขยะฝังกลบ 35.72 ตัน
  • ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู ที่ใช้เทคโนโลยีการเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำ และบรรจุภัณฑ์เมทัลไลซ์ ในการเก็บรักษาข้าว ให้มีความหอมนาน เหนียวนุ่ม และเมล็ดข้าวมีความเงา ขาวใสสดใหม่ตลอดปี


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save