วช. ร่วมกับ สวทช.เปิดตัวนักวิจัยศักยภาพสูงประจำปี 2567 เสริมแกร่งระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมจัด “งานเปิดตัวนักวิจัยศักยภาพสูง ประจำปี 2567” จากการสนับสนุนจากทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ประจำปี 2567 และโครงการวิจัยที่กำลังจะดำเนินการ รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีคณะกรรมการทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ผู้บริหาร วช. ผู้บริหาร สวทช. ผู้บริหารต้นสังกัดนักวิจัย นักวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน ณ ห้อง Lotus Suite 3 – 4 ชั้น 22 บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่ได้ร่วมกับ สวทช. เปิดรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม ทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้านมนุษยศาสตร์ โดยมุ่งเน้น 4 ด้าน ได้แก่ 1) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยไทย เพื่อให้เกิดกลุ่มวิจัยที่เข้มแข็งทำงานเป็นทีม และมีโครงสร้างการพัฒนานักวิจัยอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงตั้งแต่ระดับนักศึกษา นักวิจัยรุ่นใหม่ นักวิจัยรุ่นกลาง จนถึงนักวิจัยอาวุโส 2) สร้างและบูรณาการองค์ความรู้ เพื่อสร้างผลกระทบ และความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม โดยสอดคล้องกับความจำเป็นและความต้องการของประเทศ 3) สร้างโอกาสการวิจัยและการใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ เช่น ด้านวิชาการ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและชุมชน ด้านนโยบาย และ 4) สร้างเครือข่ายการวิจัยระดับชาติ และระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันผลผลิตงานวิจัย รวมถึงการสื่อสารข้อค้นพบทางวิชาการให้กับสังคมและชุมชน และการตอบสนองต่อปัญหาวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ นักวิจัยศักยภาพสูง ประจำปี 2567 ที่ได้รับการสนับสนุน ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.ธีรภาพ เจริญวิริยะภาพ จากสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศาสตราจารย์ ดร.วันชัย มาลีวงษ์ จากสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์สุขภาพ และ ศาสตราจารย์ ดร.อลิศรา เรืองแสง จากสาขาวิศวกรรมและเทคโนโลยี งบประมาณรวมไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อโครงการ ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี ปัจจุบันทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูงนี้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ให้การสนับสนุนไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ ด้านศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. เป็นหน่วยงานที่ดูแลและบริหารจัดการทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง โดยอาศัยกระบวนการบริหารจัดการงานวิจัยและกลไกบริหารโครงการวิจัยขนาดใหญ่ที่ สวทช. มีอยู่ รวมถึงการใช้ทรัพยากรและกระบวนการของ สวทช. ไม่ว่าจะเป็นฐานนักวิจัย โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือกลไกบริหารโครงการวิจัย โดยความร่วมมือระหว่าง วช. และ สวทช. จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ วช. และ สวทช. จะร่วมดำเนินการพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย โดยใช้เกณฑ์ครอบคลุมศักยภาพของบุคลากรและคุณค่าของโครงการ ผ่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อคัดเลือกโครงการที่มีความโดดเด่นและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศอย่างแท้จริง ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมนักวิจัยและทีมวิจัยที่ได้รับทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ประจำปี 2567 การสนับสนุนทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างทีมวิจัยที่แข็งแกร่ง ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง  กล่าวแสดงความยินดี กับนักวิจัยทั้งสามท่านและทีมวิจัย ที่ได้รับทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ซึ่งล้วนเป็นนักวิจัยระดับแนวหน้าของประเทศที่มีผลงานวิจัยโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ ทุนวิจัยนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างทีมวิจัยที่เข้มแข็งที่มีศักยภาพระดับในและต่างประเทศ ซึ่งการทำงานเป็นทีมย่อมสร้างผลงานที่มีผลกระทบสูงและสามารถขยายผลได้อย่างกว้างขวางมากกว่าการทำงานเพียงลำพัง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักวิจัยก้าวข้ามอุปสรรค บรรลุเป้าหมาย และยังมุ่งหวังให้ทีมวิจัยเหล่านี้เป็นคลังสมองของประเทศ เพื่อสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ ๆ ขยายบทบาทสู่เวทีนานาชาติ และเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกด้วย สำหรับผู้ได้รับทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัยศักยภาพสูง ประจำปี 2567 จำนวน 3 ท่าน ประกอบด้วย ดร.ธีรภาพ เจริญวิริยะภาพ สังกัด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการ “มาลาเรียลิงที่ติดต่อมาถึงคน: บทบาทของยุงพาหะและลิงหางยาวและการพัฒนาแผนที่ทำนายความเสี่ยงของโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย” โดยศึกษาปัจจัยที่ก่อโรคมาลาเรียลิงที่ติดต่อมาถึงมนุษย์ โดยการศึกษายุงพาหะ ลิงหางยาว คน เชื้อมาลาเรีย ไปพร้อม ๆ กัน และตัวอย่างการควบคุมยุงพาหะนำโรค การสนับสนุนข้อมูลวิชาการที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการให้แก่ภาครัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการควบคุมโรคมาลาเรียในประเทศไทยต่อไป 1.ดร.ธีรภาพ เจริญวิริยะภาพ สังกัด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากผลงานโครงการ “มาลาเรียลิงที่ติดต่อมาถึงคน: บทบาทของยุงพาหะและลิงหางยาวและการพัฒนาแผนที่ทำนายความเสี่ยงของโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย” โดยศึกษาปัจจัยที่ก่อโรคมาลาเรียลิงที่ติดต่อมาถึงมนุษย์ โดยการศึกษายุงพาหะ ลิงหางยาว คน เชื้อมาลาเรีย ไปพร้อม ๆ กัน และตัวอย่างการควบคุมยุงพาหะนำโรค การสนับสนุนข้อมูลวิชาการที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการให้แก่ภาครัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการควบคุมโรคมาลาเรียในประเทศไทยต่อไป ศาสตราจารย์ ดร.วันชัย มาลีวงษ์ สังกัด มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากผลงานโครงการ “กลุ่มวิจัย: สร้างองค์ความรู้ใหม่ของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ โรคติดเชื้อในเขตร้อนที่ถูกละเลยและโรคที่นำโดยพาหะแบบบูรณาการวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตนวัตกรรมใหม่สู่การประยุกต์ใช้เชิงพาณิชย์และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการประยุกต์การวิจัย สร้างองค์ความรู้ใหม่ของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ โรคติดเชื้อในเขตร้อนที่ถูกละเลย และโรคที่นำโดยพาหะแบบบูรณาการวิจัย ซึ่งนำไปสู่การวินิจฉัย การรักษา และป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง ศาสตราจารย์ ดร.อลิศรา เรืองแสง สังกัด มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากผลงานโครงการ “การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและชีวเคมีภัณฑ์จากชีวมวลและวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลภายใต้แนวทางเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว” โดยแบ่งเป็น 2 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ แพลตฟอร์มพลังงานชีวภาพที่มุ่งผลิตไฮโดรเจน มีเทน และไบโอไฮเทน และแพลตฟอร์มชีวเคมีภัณฑ์ที่มุ่งผลิตสารเคมีมูลค่าสูง เช่น กรดไขมันและพอลิเมอร์ชีวภาพ โดยได้รับความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริษัท มิตรผลวิจัย พัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด ในการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์จริง และสิ่งที่คาดว่าจะได้รับเมื่อสิ้นสุดโครงการวิจัย 3 ปี คือ เทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและชีวเคมีภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยเป็นแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล พร้อมทั้งยังช่วยในการพัฒนาบุคลากรวิจัยระดับสูง เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือวิจัยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ โครงการมีเป้าหมายที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ผลงานที่จะเกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานของนักวิจัยศักยภาพสูงทั้ง 3 ท่าน นั้นมุ่งเน้นผลสำเร็จที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ อาทิ ด้านวิชาการ ด้านเศรษฐกิจ และด้านนโยบาย เพื่อใช้เป็นกลไกในการพัฒนาและแก้ปัญหาเร่งด่วนสำคัญของประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน โดยใช้วิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save